โฮมฮับไอเดีย

เลือกไม้พื้น อย่างไร ให้สวยถูกใจ อยู่นานคงทน

เลือกไม้พื้น อย่างไร ให้สวยถูกใจ อยู่นานคงทน

ไม้พื้น เป็นหนึ่งในวัสดุปูพื้นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งด้านความสวยงามที่มีให้เลือกหลากหลายสไตล์และคุณสมบัติของไม้พื้นที่ตอบโจทย์ทั้งบ้านและคอนโด สำหรับในบทความนี้ ได้รวบรวมเคล็ดลับการเลือกไม้พื้น ให้ถูกใจและเหมาะสมกับการใช้งานภายในบ้านมาฝาก 

ก่อนเลือกทำความรู้จักไม้พื้นก่อน

ไม้พื้น เป็นไม้พื้นที่มีลวดลายเลียนแบบไม้ธรรมชาติ โดยเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางเลือกสำหรับคนชอบลายไม้แต่ต้องการสัมผัสและคุณสมบัติที่แตกต่างจากไม้ ซึ่งในผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเดียวกันก็เป็นประเภทไม้เทียม เช่น ไม้พื้นลามิเนตหรือไม้พื้น SPC เป็นต้น

ไม้พื้นโดยทั่วไปจะมีลักษณะเป็นชั้นๆประกอบไปด้วย

  • ชั้นบนสุด (Wear Layer) สำหรับชั้นบนเคลือบผิวด้วย PVC ทำหน้าที่เพิ่มความแข็งแรงให้กับไม้พื้น และเคลือบด้วย Polyurethane เพื่อป้องกันน้ำและรอยขีดข่วน
  • ชั้นกลาง (Middle Layer) เป็นชั้นที่มีวัสดุหลักแตกต่างกันขึ้นอยู่กับผู้ผลิต โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีวัสดุหลักคือ ไวนิลและโฟม ซึ่งคุณสมบัติจะต่างกัน เช่น ไม้พื้นที่ใช้โฟมจะมีคุณสมบัติอ่อนตัว เนื้อนุ่มและยืดหยุ่น เป็นต้น
  • ชั้นล่างสุด (Bottom Layer) ชั้นล่างสุดเป็นวัสดุที่เสริมความแข็งแรงอย่างไฟเบอร์กลาส และเคลือบสาร Anit-Mould เพื่อป้องกันการเกิดเชื้อรา

นอกเหนือจากไม้พื้นโดยทั่วไปแล้ว ในปัจจุบันมีการพัฒนาไม้พื้น SPC (Stone Plastic Composite) เป็นไม้พื้น ที่มีส่วนผสมระหว่าง พลาสติก PVC กับแคลเซียมคาร์บอเนต ส่งผลให้ไม้พื้น SPC มีคุณสมบัติเหนียว ยืดหยุ่นและแข็งแรง ทนทานในแผ่นเดียวกัน

คุณสมบัติของไม้พื้น

  • มีความยืดหยุ่น ไม่หดตัว
  • น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย
  • ป้องกันความชื้นได้ดี ไม่บวมน้ำ (เฉพาะไม้พื้นที่ติดตั้งโดยไม่ใช้กาวอย่างระบบ Click-lock)
  • ปลอดจากแมลง ไม่เป็นอาหารของปลวก เนื่องจากไม่มีไม้เป็นส่วนประกอบ
  • รองรับน้ำหนักได้มาก
  • ยึดเกาะได้ดี ไม่ลื่นเมื่อเจอน้ำ
  • ทนต่อรอยขีดข่วน
  • ไม่มีสาร Formaldehyde

วิธีการติดตั้งไม้พื้น

วิธีการติดตั้งเป็นหนึ่งในเรื่องควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกไม้พื้น โดยวิธีการติดตั้งจะทำให้ทราบว่าไม้พื้นแบบไหนที่เหมาะกับพื้นที่และใช้ระยะเวลานานเท่าไรในการดำเนินการติดตั้ง โดยไม้พื้นมีวิธีการติดตั้งด้วยกัน 3 ประเภท ดังนี้

  1. Dry Back สำหรับการติดตั้งแบบ Dry Back เป็นการติดตั้งโดยใช้กาวทาบริเวณพื้นก่อนปูไม้พื้น โดยข้อดีของการติดตั้งแบบ Dry Back คือความหนาแน่นที่สามารถรองรับน้ำหนักจากการสัญจรไปมาได้ดี เหมาะสำหรับบริเวณที่สมาชิกในบ้านใช้งานบ่อย เช่น ห้องนั่งเล่นหรือห้องครัว เป็นต้น
  2. Peel and Stick ไม้พื้นที่ติดตั้งแบบ Peel and Stick เป็นไม้พื้นที่มีชั้นกาวลักษณะเหมือนกับสติกเกอร์ ติดตั้งโดยใช้กาวเหมือนกับระบบ Dry back แต่แตกต่างตรงที่แบบ Peel and Stick จะติดตั้งได้เร็วกว่าเพราะไม่ต้องรอกาวเซ็ตตัว
  3. Click-lock การติดตั้งแบบ Click-lock เป็นการติดตั้งโดยไม่ใช้กาวแต่ใช้ขอบลิ้นไม้พื้นให้เป็นร่องเกี่ยวล็อคกันระหว่างแผ่นยาง โดยในการปูพื้นสามารถปูได้ในพื้นเรียบทั่วไป แต่ถ้าหากเพิ่มประสิทธิภาพในการเก็บเสียงสามารถนำแผ่นโฟมรองก่อนได้ ซึ่งไม้พื้นที่ติดตั้งแบบ Click-lock มักพบได้ในไม้พื้นประเภท SPC โดยจุดเด่นของไม้พื้น Click-lock คือ การติดตั้งที่ง่ายสามารถติดตั้งได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องง้อช่าง

วิธีเลือกไม้พื้นให้เหมาะกับสไตล์บ้าน

หลังจากทราบคุณสมบัติและวิธีการติดตั้งเบื้องต้นแล้ว ถึงเวลาเลือกไม้พื้นเหมาะกับสไตล์บ้านแล้ว สำหรับสไตล์บ้านที่เหมาะกับไม้พื้นมีดังนี้

สไตล์เอิร์ธโทน

บ้านสไตล์เอิร์ธโทนเป็นบ้านที่เลียนแบบธรรมชาติ ด้วยโทนสีในการตกแต่งบ้านทั้งเฟอร์นิเจอร์และองค์ประกอบโดยรวมของบ้าน สำหรับโทนสีของห้องเอิร์ธโทนคือ สีเขียว, น้ำตาลและสีเทา โดยบ้านสไตล์เอิร์ธโทนเป็นบ้านที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายตา เรียบง่ายและเป็นมิตร

สำหรับไม้พื้นที่เหมาะกับบ้านสไตล์เอิร์ธโทน ควรเลือกไม้พื้นที่มีสีน้ำตาลอ่อน จะช่วยเสริมบรรยากาศให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับเฟอร์นิเจอร์ชนิดภายในห้องได้ แต่ทั้งนี้ควรเลือกไม้พื้นที่ติดตั้งแบบ Click-lock เพื่อลดปัญหาความชื้น เนื่องจากโดนปกติแล้วการแต่งบ้านสไตล์เอิร์ธโทนมักใช้ต้นไม้เป็นส่วนประกอบ โดยต้นไม้มักนำความชื้นเข้ามาสู่ห้อง ทั้งจากการรดน้ำและการคายความชื้น ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายกับวัสดุพื้นได้

สไตล์ลอฟท์

การแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์เป็นสไตล์บ้านที่เน้นความดิบ ความดุ ผ่านเนื้อแท้ของการตกแต่งบ้าน เช่น ปูนเปลือย เหล็กและไม้ โทนสีของบ้านสไตล์ลอฟท์เป็นโทนสีเข้มอย่างสีดำ, สีเทาและสีน้ำตาลเข้ม โดยบ้านที่ตกแต่งในสไตล์ลอฟท์เป็นบ้านที่มีเสน่ห์จากความรู้สึกน่าค้นหา

ในการเลือกไม้พื้นสำหรับบ้านสไตล์ลอฟท์ ควรเลือกไม้พื้นที่มีโทนสีเข้ม อย่างสีน้ำตาลเข้ม และมีเอกลักษณ์ของลายที่โดดเด่นอย่างชัดเจน เนื่องจากบ้านสไตล์ลอฟท์เป็นสไตล์ที่เน้นความเข้มเคร่งขรึม และแสดงถึงเนื้อแท้ของวัตถุ แต่ทั้งนี้หากต้องการปรับลดความทึบของบ้านสามารถปรับมาใช้ไม้พื้นสีน้ำตาลอ่อนได้เช่นเดียวกัน

สไตล์มินิมอล

บ้านสไตล์มินิมอลเป็นบ้านที่เน้นความโปร่งโล่ง ด้วยคอนเซป “Less is more” คัดเลือกเฉพาะของแต่งบ้านที่เน้นการใช้งานเท่านั้น ในการแต่งบ้านสไตล์มินิมอลจะเน้นโทนสีสว่างอย่าง สีขาว, สีเทาอ่อนและสีน้ำตาล โดยบ้านในสไตล์มินิมอลเป็นบ้านที่ให้ความรู้สึกเรียบง่าย สบายตา เหมาะแก่การพักผ่อน

สำหรับไม้พื้นที่เหมาะกับบ้านสไตล์มินิมอล ควรเป็นไม้พื้นที่มีสีน้ำตาลอ่อนจับคู่กับเฟอร์นิเจอร์ไม้ ทำให้บรรยากาศภายในบ้านกลมกลืนและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเช่นเดียวกับบ้านสไตล์เอิร์ธโทน ไม้พื้นที่เหมาะสไตล์มินิมอลเป็นไม้พื้นแบบ Click-lock เพื่อแก้ปัญหาความชื้นจากการปลูกต้นไม้ภายในบ้าน

สไตล์วินเทจ

การแต่งบ้านสไตล์วินเทจเป็นการแต่งโดยยึดรูปแบบจากบ้านในอดีต ผ่านสถาปัตยกรรมและเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งบ้าน โดยโทนสีที่นิยมใช้ในการตกแต่งสไตล์วินเทจเป็นโทนสีที่นิยมใช้ในอดีต เช่น สีเหลือง, สีส้ม, สีแดงและสีฟ้าอ่อน สำหรับการแต่งบ้านสไตล์วินเทจเป็นบ้านที่มีเสน่ห์ผ่านรูปลักษณ์และเรื่องราวของสิ่งของตกแต่งบ้าน ซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปยังอดีตอีกครั้ง

ไม้พื้นสำหรับบ้านสไตล์วินเทจสามารถเลือกได้ทั้งสีน้ำตาลอ่อนและน้ำตาลเข้ม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับโทนสีของเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง อาทิ เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นโทรสีเข้ม ซึ่งให้ความรู้สึกหนักแน่นและรุนแรง การตัดอารมณ์ด้วยไม้พื้นลายไม้สีอ่อนเป็นอีกวิธีที่ช่วยลดทอนความรู้สึก ทำให้ห้องไม่อึดอัดไปด้วยของเก่ามากจนเกินไป

แวะชมสินค้าของเราได้ที่ www.homehub.co.th

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *