พื้นไม้ (wood flooring)
พื้นไม้ (wood flooring) แบ่งชนิดของไม้ออกเป็น 2 ประเภท คือ ไม้เนื้อแข็ง หรือ Hard wood และไม้เนื้ออ่อน หรือ Soft wood โดยไม้ที่มีใบกว้างเราจะเรียกว่าเป็นไม้เนื้อแข็ง ในขณะที่ไม้ที่มาจากพืชตระกูลสนเราจะเรียกว่า ไม้เนื้ออ่อน ซึ่งในความเป็นจริง ไม้ในกลุ่มหลังนี้ก็มีความแข็งที่สามารถจัดเข้ากลุ่มแรกได้ สำหรับในประเทสไทยได้มีการแยกประเภทไม้ให้ละเอียดยิ่งขึ้นตามลักษณะความแข็ง แรงของไม้ดังนี้
-
ไม้เนื้ออ่อน เป็นไม้ที่มีวงปีกว้างมาก เนื่องจากเป็นไม้โดเร็ว ลำต้นใหญ่ เนื้อค่อนข้างเหนียว แต่ทำงานได้ง่าย เนื้อไม้มีสีจางหรือ ค่อนข้างซีด อาทิ ไม้กระบาก ไม้ยาง ไม้ฉำฉา ไม้เหียง ไม้โมก ไม้กระท้อน ไม้ยมหอม ไม้จำปาป่า ไม้สนต่างประเทศ เหมาะกับงานในที่ร่มหรืองานชั่วคราว งานตกแต่ง และเครื่องมือเครื่องใช้
-
ไม้เนื้อแข็ง เป็นไม้ที่มีวงปีมากกว่าไม้เนื้ออ่อน เพราะมีการเจริญเติบโตช้ากว่า คือต้องมีอายุหลายสิบปี จึงจะนำมาใช้งานได้ ลักษณะทั่วไปของไม้จะมีเนื้อมัน ลายละเอียด เนื้อแน่น สีเข้ม (แดงถึงดำ) มีน้ำหนักมาก แข็งแรงทนทาน เช่น ไม้สัก ไม้ตะแบก ไม้ประดู่ ไม้มะเกลือ เป็นต้น เหมาะสำหรับงาน เฟอร์นิเจอร์ งานก่อสร้างบ้าน และเครื่องมือ
-
ไม้เนื้อแกร่ง เป็นไม้ที่มีการเจริยเติบโตช้ามาก จึงทำให้ วงประจำปีถี่มากกว่าไม้สองชนิดแรก คือ ต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 60-70 ปีขึ้นไปจึงจะนำมาใช้งานได้ เนื้อไม้มีสีเข้มค่อนข้างแดง น้ำหนักไม่มาก แต่แข็งกว่าไม้เนื้อแข็ง ไม้ที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ ส่วนใหญ่มักเป็นไม้ที่ใช้ในการก่อสร้างหรือเป้นโครงสร้าง อาทิ คาน ตง เสา ได้แก่ ไม้แดง ไม้ชิงชัน ไม้ตะเคียน ไม้มะค่าโมง ไม้พยุง ไม้เต็ง
ชนิดของไม้ที่นิยมใช้
ในบรรดาไม้ประเภทต่างๆ มีไม้เพียงไม่กี่ชนิด ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในด้านการก่อสร้างและ เครื่องเรือน
-
ไม้สัก เป็นไม้เนื้อละเอียด นิ่ม ง่ายต่อการใช้เครื่องมือ ไม้มีกำลังและแข็งพอประมาณ แต่ค่อนข้างเปราะ ปลวกไม่กิน เลื่อยผ่าซอยง่าย บิดตัวและงอเล็กน้อยเมื่อแห้ง ไม้สักมีหลายชนิด และมีลักษณะคล้ายกัน เช่น สักทอง และสักขึ้ควาย โดยสักทองจะมีสีเหลืองสวย ส่วนสักขึ้ควายจะมีสีคล้ำและลวดลายสับสน เหมาะในการนำมาใช้ทำเครื่องเรือน เช่นตู้ โต๊ะ เก้าอี้ เรือ หรือทำประตูหน้าต่าง
-
ไม้ยาง เป็นไม้เสี้ยนใหญ่ หยาบ และอ่อน เหมาะกับการใช้ในที่ร่ม เนื่องจากมียางมาก แห้งตัวช้า และยือหดตัวสูง เมื่อหดตัวยางจะปะทุออกจากเนื้อไม้ เมื่อตอกตะปู เนื้อไม้จะแตกได้ง่าย เลื่อยซอยง่าย เนื้อไม้สีแดงเข้มจะแข็งแรงกว่าไม้สีอ่อน
-
ไม้เต็ง เนื้อไม้มีสีน้ำตาลอ่อน ค่อนข้างแห้ง และละเอียด ทนทานต่อดินฟ้าอากาศ เมื่อหดตัวมักแตกเป็นลายงา เลื่อยตัดยากเมื่อแห้ง เหมาะกับงานภายนอก และส่วนที่ใช้รับน้ำหนักหรือเป็นโครงสร้าง เช่น เสา คาน ตง สะพาน บันได
-
ไม้รัง เนื้อละเอียดปานกลาง สีน้ำตาลอมเหลือง เนื้อไม้ เมื่อแห้งแตกค่อนข้างน้อย คุณสมบัติอื่นๆ เหมือนไม้เต็ง
-
ไม้แดง เนื้อไม้แน่น สีแดง ลวดลายสวย แข็งแรง ทนทาน ทำให้ตัดเจาะยาก ใช้ทำโครงสร้างอาคาร เช่น เสา คาน ตง และเครื่องเรือนพิเศษ เพราะรับน้ำหนักได้ดี และไม่ยึดหดตัวมาก
-
ไม้ตะแบก เนื้อไม้สีเทาอมเหลือง เนื้อละเอียดใสและขึ้นเงา มีลวดลายชัดเจน ทำให้ตกแต่งง่าย เหมาะในการก่อสร้างบ้าน และทำด้ามเครื่องมือ
-
ไม้มะค่าโมง มีสีน้ำตาลปนแดง มีความแข็วแรงทนทาน เมื่อกลึงจะเห็นลวดลายสวยงาม เหมาะสำหรับทำบันไดหรือเป็นโครงสร้าง
พื้นไม้จริง VS พื้นไม้เทียม มีคุณสมบัติต่างกันอย่างไร ?
สำหรับใครที่ชอบการตกแต่งบ้านที่ได้กลิ่นอายของความเป็นธรรมชาติ คงไม่พ้นการออกแบบด้วยลวดลายที่สวยงามของไม้ การเลือกวัสดุปูพื้นที่เป็นลายไม้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่จะช่วยให้บ้านมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในปัจจุบันเรามีตัวเลือกวัสดุปูพื้นลายไม้มากมาย หลายๆคนอาจจะนึกสงสัยว่าระหว่าง พื้นไม้จริง หรือพื้นไม้เทียม ตัวเลือกไหนจะตอบโจทย์สำหรับบ้านเรามากที่สุด ถ้าอย่างงั้นแล้วอย่าช้า ไปหาคำตอบกันเลย
พื้นไม้จริง
พื้นไม้จริง เป็นประเภทพื้นไม้ที่ได้รับความนิยมมาตลอด เพราะเสน่ห์ของลวดลายไม้จริงที่มาจากธรรมชาติ สัมผัสที่เป็นธรรมชาติ รวมไปถึงการยกระดับความหรูหราให้บ้านอีกด้วย
คุณสมบัติ – ประโยชน์ของพื้นไม้จริง
- ให้สัมผัสที่หนักแน่นสบายเท้า
- ยกระดับ ความหรูหรา/เพิ่มมูลค่า ให้บ้าน
- แข็งแรงทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน
- สามารถซ่อมบำรุงด้วยการขัด – ทาสีใหม่ให้กลับมาคงสภาพเดิมได้
- ไม้พื้น หากผลิตจากไม้เนื้อแข็ง จะเสี่ยงปลวกน้อยถึงน้อยมาก
- ให้ฟีลลิ่งความเป็นธรรมชาติ แถมเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- มีลวดลายเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกันไปตามแต่ละประเภทไม้
ข้อควรรู้ : เนื่องจากเป็นไม้ธรรมชาติ จึงมีข้อจำกัดเรื่องของน้ำ ความชื้น หรือเรื่องที่ไม่สามารถใช้ภายนอกอาคารหรือพื้นที่กลางแจ้งได้ นอกจากนั้นยังต้องระวังปัญหาปลวกกิน และราคาที่อาจสูงกว่าไม้เทียม
พื้นไม้เทียม
พื้นไม้เทียม เป็นวัสดุที่ทำเลียนแบบให้เหมือนไม้จริง ทั้งรูปร่าง สีสัน เพื่อให้สามารถใช้งานทดแทนไม้จริงในรูปแบบต่าง ๆ ได้พื้นไม้เทียม เป็นวัสดุที่ทำเลียนแบบให้เหมือนไม้จริง ทั้งรูปร่าง สีสัน เพื่อให้สามารถใช้งานทดแทนไม้จริงในรูปแบบต่าง ๆ ได้
คุณสมบัติ – ประโยชน์ของพื้นไม้เทียม
- ติดตั้งง่ายกว่าไม้จริง สามารถใช้งานได้ทันที
- ดูแลรักษา และทำความสะอาดง่ายกว่าไม้จริง
- ขนาดและความหนาของแผ่นไม้แต่ละแผ่นได้มาตรฐานที่เท่าๆกัน เพราะมีการตรวจเช็คคุณภาพจากสถานที่ผลิตนั้นๆ
- ไร้การรบกวนจากปลวก เพราะปลวกไม่สามารถกัดกินได้
- พื้นไม้ไม่เกิดการหดตัวจากปัญหาความชื้น
ข้อควรรู้ : พื้นไม้เทียมจะให้สัมผัสที่ไม่เป็นธรรมชาติเหมือนพื้นไม้จริง หากพื้นผิวเคลือบเกิดความเสียหายทำให้ยากต่อการซ่อมแซมคืนสภาพเดิมได้ 100% ถ้าหากเกิดความเสียหายให้ใช้วัสดุอุดร่องรอย และทาสีทาไม้ปกปิดรอย
แวะชมสินค้าของเราได้ที่ www.homehub.co.th